แม่บทประกอบเรื่อง สีหาไสยาส

เริ่มโดย kai, ต.ค 17, 2023, 09:19 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

kai

แม่บทประกอบเรื่อง สีหาไสยาส
===============================
[๒๔๖]   จตสฺโส   อิมา   ภิกฺขเว   เสยฺยา   กตมา   จตสฺโส
เปตเสยฺยา   กามโภคิเสยฺยา  สีหเสยฺยา  ตถาคตเสยฺยา  ฯ  กตมา  จ
ภิกฺขเว   เปตเสยฺยา   เยภุยฺเยน   ภิกฺขเว   เปตา  อุตฺตานา  เสนฺติ
อยํ  วุจฺจติ  ภิกฺขเว  เปตเสยฺยา  ฯ  กตมา  จ ภิกฺขเว กามโภคิเสยฺยา
เยภุยฺเยน   ภิกฺขเว   กามโภคี   วาเมน  ปสฺเสน  เสนฺติ  อยํ  วุจฺจติ
ภิกฺขเว กามโภคิเสยฺยา ฯ
{๒๔๖.๑}   กตมา  จ  ภิกฺขเว  สีหเสยฺยา  สีโห ภิกฺขเว มิคราชา
ทกฺขิเณน    ปสฺเสน    เสยฺยํ   กปฺเปติ   ปาเทน   ปาทํ   อจฺจาธาย
อนฺตรสฏฺฐิมฺหิ   นงฺคุฏฺฐํ    อนุปกฺขิปิตฺวา    โส    ปฏิพุชฺฌิตฺวา
ปุริมํ   กายํ  อพฺภุนฺนาเมตฺวา  ปจฺฉิมํ  กายํ  อนุวิโลเกติ  สเจ  ภิกฺขเว
สีโห   มิคราชา   กิญฺจิ   ปสฺสติ   กายสฺส   วิกฺขิตฺตํ   วา  วิสฏํ  วา
เตน   ภิกฺขเว   สีโห  มิคราชา  อนตฺตมโน  โหติ  สเจ  ปน  ภิกฺขเว
สีโห   มิคราชา   น   กิญฺจิ  ปสฺสติ  กายสฺส  วิกฺขิตฺตํ  วา  วิสฏํ  วา
อนฺตราสตฺถีนํ ฯ
เตน   ภิกฺขเว   สีโห  มิคราชา  อตฺตมโน  โหติ  อยํ  วุจฺจติ  ภิกฺขเว
สีหเสยฺยา   ฯ  กตมา  จ  ภิกฺขเว  ตถาคตเสยฺยา  อิธ  ภิกฺขเว  ภิกฺขุ
วิวิจฺเจ   กาเมหิ   ฯเปฯ   จตุตฺถํ   ฌานํ   อุปสมฺปชฺช   วิหรติ   อยํ
วุจฺจติ ภิกฺขเว ตถาคตเสยฺยา ฯ อิมา โข ภิกฺขเว จตสฺโส เสยฺยาติ ฯ
[๒๔๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ไสยา (การนอน) ๔ อย่างนี้ ๔ อย่าง
เป็นไฉน คือ เปตไสยา (นอนอย่างคนตาย) ๑ กามโภคีไสยา (นอนอย่าง
คนบริโภคกาม) ๑ สีหไสยา (นอนอย่างราชสีห์) ๑ ตถาคตไสยา (นอนอย่าง
ตถาคต) ๑

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เปตไสยาเป็นไฉน คนตายโดยมากนอนหงายนี้เราเรียกว่าเปตไสยา ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็กามโภคีไสยาเป็นไฉน คนบริโภคกามโดยมากนอน
ตะแคงข้างซ้าย นี้เราเรียกว่ากามโภคีไสยา ฯ 
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สีหไสยาเป็นไฉน สีหมฤคราชย่อมสำเร็จการนอนข้างเบื้องขวา ซ้อนเท้าเลื่อมเท้า สอดหางเข้าในระหว่างโคนขา มันตื่นขึ้นแล้วยืดกายเบื้องหน้าแล้ว เหลียวดูกายเบื้องหลัง ถ้ามันเห็นความผิดแปลกหรือความละปรกติแห่งกาย มันย่อมเสียใจด้วยเหตุนั้น ถ้ามันไม่เห็นอะไรผิดปรกติ มันย่อมดีใจด้วยเหตุนั้น นี้เราเรียกว่าสีหไสยา ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ตถาคตไสยาเป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้
สงัดจากกาม ฯลฯ บรรลุจตุตถฌาน นี้เราเรียกว่าตถาคตไสยา ดูกรภิกษุทั้งหลาย 
ไสยา (การนอน) ๔ อย่างนี้แล ฯ

ปัจจุบันเรามักจะพูดกันว่า พระพุทธเจ้าบรรทม แบบสีหไสยาส แต่การบรรทมสีหไสยาสเป็นแต่สอนให้สาวกเท่านั้น สำหรับพระพุทธเจ้าบรรทมด้วย ตถาคตไสยา คือหลับไปในฌานสมาธิ

( พอจ ก็พยายามฝึกฝนอยู่ แต่ อย่างไรก็ต้องนอนแบบชาวบ้านอยู่ดี อย่างน้อย 4 ชม แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้นอนอย่างชาวบ้าน 4 ชม แต่ พระองค์เข้าอานาปานสติ 4 ชม แทนการนอนอย่างชาวบ้านทุกวัน  )
ก็คาดหวังทุกคนจะพูดได้ถูกว่า พระพุทธเจ้าบรรทมด้วย ตถาคตไสยา ไม่ใช่ สีหไสยา

เจริญธรรม / เจริญพร
17 กรกฎาคม  2566