ถาม รู้ได้อย่างไร ว่า มี กิเลส และไม่มีกิเลส

เริ่มโดย kai, ส.ค 30, 2023, 08:51 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

kai

ถาม รู้ได้อย่างไร ว่า มี กิเลส และไม่มีกิเลส

ตอบ รู้ได้ด้วยตนเอง โดย การเข้าปัจจเวกขณญาณ ตรวจสังโยชน์ 10 ที่มีอยู่ และที่ดับได้แล้ว

การเข้าตรวจสังโยชน์ เรียกว่า การเข้าผลสมาบัติ
โสดาบัน ละกิเลส สังโยชน์ได้ 3
คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส

สกทาคามี
ละสังโยชน์ เบา ๆ อ่อน ได้อีก 2
คือ ปฏิฆะ ( ความขัดเคือง ) และ
กามราคะ ( จิตน้อมไปในกามคุณ ) ได้อย่างเบาบาง เหลือนิดหน่อย

อนาคามี ละสังโยชน์ ได้ 5
คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส ปฏิฆะ และ กามราคะ ไดอย่างสิ้นเชิง

พระอรหันต์ ละสังโยชน์ 5 ตัวสุดท้าย
มี รูปราคะ อรูปราคะ มานะ อุทธัจจะ และ อวิชชา

ดังนั้นการตรวจสังโยชน์ ผู้บรรลุ คุณธรรม
ก็จำเป็นต้องเข้า ผลสมาบัติ
พระอริยะทั้งฝ่าย ปัญญาวิมุตติ และ เจโตวิมุตติ
สามารถเข้าผลสมาบัติได้เหมือนกัน
ท่านกล่าวไว้ในคัมภีร์ว่า ผลสมาบัติ มีอำนาจเช่นเดียวกับ
ปฐมฌาน ดังนั้นผู้เข้าผลสมาบัติ
ย่อมกำหนดเวลาได้ 1 ทิวา 1 ราตรี
เสมอกันด้วยการเข้าผลสมาบัติ

แต่ พระอริยะ อนาคามี ฝ่ายเจโตวิมุตติ
เข้า ผลสมาบัติ เป็น นิโรธสมาบัติ
จึงมีระยะเวลา 3 - 5 ทิวา และ 3 - 5 ราตรี

ส่วนพระอรหันต์ เจโตวิมุตติ เข้า ผลสมาบัติ
เป็น สัญญาเวทยิตนิโรธ
สามารถกำหนดเวลาได้ 3 - 7 ทิวา และ 3 - 7 ราตรี

เจริญธรรม / เจริญพร
20 กันยายน 2019