ข่าว:

SMF - Just Installed!

Main Menu

อย่าคิดว่า เราทำไม่ได้

เริ่มโดย kai, ส.ค 03, 2023, 07:45 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

kai

เคยบ้างไหม พอไปเจอเรื่องที่มันซับซ้อน แล้วเราก็มักจะคิดว่า ทำไม่ได้ พอเราคิดว่าทำไม่ได้ มันก็ไม่อยากทำ และ ทำแบบซังกะตาย การที่เราไม่อยากทำ และคิดว่าทำไม่ได้ มันก็เลยไปถ่วงคนอื่นให้ลำบาก และให้เห็นพ้องว่าทำไม่ได้

วันหนึ่ง ธัมมะวังโส เจอเด็กเล่น รูบิก ปกติ เคยเห็นลูกเล็ก ๆ แต่วันนั้นเด็กคนนั้นมานั่งเล่นอยู่ข้างโบสถ์ แล้วพยายามหมุน ธัมมะวังโส เดินไปเจอ ก็ถามเขาว่า

(ธัมมะวังโส ธ.) ไอ้หนูทำอะไร
(เด็ก ด.) เด็กก็ตอบมาว่า มาฝึกหมุนรูบิกครับ

พอมองเห็นเขายื่นรูบิกตอนนั้น ก็งง ๆ ว่า
(ธ.)แล้วพูดว่า ไอ้หนู รูบิกแก ทำไม มันถี่อย่างนี้ วะ
(ด) มันเป็นระดับยาก ครับหลวงพ่อ เป็น แบบ 16 x 16

ตอนนั้นก็บอกว่า
(ธ.)โห แล้วทำได้หรือ
(ด.) ทำได้ครับแต่ใช้เวลาหลายวัน
(ธ.)มีคนทำได้อีกหรือ
( ด.) มีครับ
(ธ.) จริงหรือ เร็วสุดเขาใช้เวลาเท่าไหร่
(ด) ประมาณ 6 ชม ครับ
( ธ) แล้วเราใช้เวลาเท่าไหร่
(ด) ผมก็หลายวันครับ
(ธ) แล้วทำไมนั่งฝึกตรงนี้
(ด) อยากได้สมาธิเพิ่มครับ
(ธ) อ่อ
(ด) ถ้ามีสมาธิ จะทำได้ดีใช่หรือไม่ครับ
(ธ) ไม่รู้สิ หลวงพ่อเองก็ว่ามีสมาธิ นะ แต่ก็คิดว่า ทำไม่ได้แบบแกหรอก มันคงต้องมีความเข้าใจ และ พรสวรรค์ด้วย
(ด) หลวงพ่อสอนสมาธิให้ผมหน่อยได้ไหมครับ
(ธ) ได้

เล่าให้ฟัง นะ แต่เรือ่งนี้มันทำให้ ธัมมะวังโส มีมุมต่างความคิดเพิ่มเติมไป คือมองเห็นว่า บางครั้งมันไม่ได้เกิดจากสมาธิ อย่างเดียว แต่มันเกิดจาก รูปแบบการฝึกฝนด้านความเป็นระเบียบ ร่วมกับสมาธิ นั่นหมายถึง เด็กที่ทำแบบนี้ต้องมีการพัฒนาสมองมีรูปแบบชั้นเชิง ร่วมกันสมาธิ ไม่ใช่ความสามารถของสมาธิ

แต่มันก็มีเหตุผลสอนเราในตัว คือ อย่าคิดว่า เราทำไม่ได้ แล้วคนอื่นก็จะทำไม่ได้ เพราะว่า บางอย่างมันเป็นพรสวรรค์ บางอย่างก็เป็นพรแสวง บางอย่างก็เป็นทั้งสองอย่าง ดังนั้น เรื่องพวกนี้เป้นเรื่องที่พอจะอนุมาน ฝึกฝนกันได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ เพราะว่ามีสมาธิ เพราะมันต้องดูจริต อุปนิสัย การเรียนรู้ นี่เป็นสูตรของโลก
แต่สูตรทางธรรม พระพุทธเจ้าก็ยังแยกบุคคลออกเป็นสี่เหล่า เป็นสี่พวกที่ยังพอจะสอนได้ ตั้งแต่ อุคติตัญญู วิปจิตัญญู เวไนยยะ และ ปทปรมะ แต่ถ้าต่ำกว่านี้แล้ว มันก็สอนไม่ได้ นำไม่ได้เพราะแค่พวก ปทรมะ ก็ลำบากเป็นอย่างยิ่งแล้ว
ดังนั้นในโลกนี้ มีเรื่องที่เราทำไม่ได้ แต่มีคนอื่นทำได้ เยอะแยะมากมาย แต่เรื่องของพระนิพพาน นั้น เป็นเรื่องที่ต้องมีกำลังใจสูงในด้านการสละ เพราะถ้ามาสายนี้ ต้องสละ อย่างแรกต้องสละความเห็นแก่ตัว และพัฒนาไปถึง สละชีวิต มันต้องถึงระดับนั้น ในสถานการณ์เป็นตายสำคัญที่สุดที่จะเรียนธรรม เข้าถึงหลักธรรม พระพุทธเจ้าตรัสไว้ อัตตาหิ อัตตะโน นาโถ ตนแนั่นแหละเป็นที่พึ่งแห่งตน เพราะถ้าไปถึงสุดทางแห่งมรรค มันจะเหลือตัวคนเดียว เปล่าเปลี่ยวเอกา จะไปรใครมาช่วยใน สภาวะมรรค สมังคี เป็นไปไม่ได้เลย เมื่อเหยียบย่างเข้าไป ใน วัฏฏะแห่งอริยะมรรค มีเพียงตนเองเท่านั้นที่พึ่งได้ จะออกหรือไม่ออกก็ตัวเองเท่านั้นไมใช่ใครจะมาช่วยได้ แม้พระพุทธเจ้าก็ช่วยไม่ได้ ในระหว่างที่ เข้าไปสู่ มรรคสมังคี
มรรคสมังคี คือ อะไร ?

พูดง่าย ๆ ก็คือ สภาวะที่จิตได้ สมาธินิมิต ขั้นสูงสุดแล้วเข้าสู่กระบวนการ ปฏิจจสมุปบาท ( เชื่อสิ ไม่มีในตำรา ไม่สามารถปรุงแต่งตามตำราได้ ) ตรงนี้เป็น ปัจจัตตัง( รู้ได้ด้วยตนเอง) แน่นอน


เจริญธรรม / เจริญพร