ข่าว:

SMF - Just Installed!

Main Menu

ชีวิตของผู้ฝึกภาวนา

เริ่มโดย kai, ส.ค 26, 2023, 07:29 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

kai

ชีวิตของผู้ฝึกภาวนา

เพลงข่าวก็ไม่ได้ฟัง ร้องรำดนตรีก็ไม่สน บอลกีฬาก็ไม่ติดตามเล่น การบ้านการเมืองก็ไม่ได้สนใจ เพื่อนพ้องญาติมิตรก็ไม่ได้หมั่นไปหาไปเล่น ลูกหลานก็ไม่ได้สนใจ การเรียนการงานก็ไม่ได้หวังก้าวหน้า การเลี้ยงชีวิตก็ไปอย่างธรรมดาทั่วไป ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์ ไม่มีใครมาเคารพนบน้อมหรือยำเกรง ไม่สนเรื่องความรัก ไม่ต้องการให้มีใครมารัก และมุ่งแต่จะทำเรื่องไม่เกิดเท่านั้น สรุปชีวิตไม่มีค่าและคุณแก่ชาวโลก ใด ๆ เลย

ชีวิตอย่างนี้ หลายคนคิดว่า ไร้ค่า ไร้คุณ ไม่มีประโยชน์ในการมีชีวิต เหมือนคนบ้า ที่เอาแต่เพ้อพกแต่เรื่องไม่เกิด ไม่เกิด ไม่เกิด เท่านั้น เป็นชีวิตที่ขาดรสชาติ จริง ๆ จนบางคนคิดว่า นั้นก็ควรกลับไปกิน มีกาม มีเกรียติ จะดีกว่ามีชีวิตรันทดอย่างนี้
มันมีคำอธิบายที่ยากอยู่ ว่าทำไมชีวิตของคนเลือกเส้นทางไม่เกิด มันจึงขาดสีสัน ไม่มีชีวิตชีวา แบบชาวโลก ก็เพราะว่า บรรดาสีสันเหล่านั้นล้วนอยู่ฝ่ายมาร(กิเลส) ทั้งสิ้น พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ระวังจิตใฝ่กามคุณ มีรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส อารมณ์ ที่แฝงไว้ด้วยความชอบใจ และ ไม่ชอบใจ

ดังนั้นชีวิตของผู้ฝึกฝนภาวนา จึงอยู่ห่างไกลจากชาวโลกมากขึ้นไปเรื่อย ยิ่งเป็นโสดาบัน ยิ่งห่างกัน เหมือนคนละสังคม เพราะเป็นสังคมความสงบไม่ต้องปั้นหน้ารอยยิ้ม ไม่ต้องเสริมปรุงแต่งอารมณืให้เพลิดเพลินในกามคุณ ต่อไป ชีวิตของผู้ฝึกฝนภาวนาจึงไม่ไปทางเร่าร้อน จะมีแต่ความสงบ

ทุกข์ก็สงบ สุขก็สงบ กลางๆก็สงบ
มีแต่ความสงบ ไม่เร่าร้อน และสันโดษ(ชีวิตพอเพียง )
ไม่รวย ไม่จน ไม่ฟุ้ง ไม่เอ่อ ไม่ท่วม ไม่จม

ชีวิตของปุถุชน ค่อนข้างจะหาความสงบไปไม่ได้ เพราะเร่าร้อนด้วยความเป็นเจ้าของ เป็นเรา เป็นของเรา จิตจึงมีความทุกข์มากด้วยความต้องการที่ไม่ปราศจากความพอเพียง มีร้อยก็ต้องการพัน มีพันต้องการหมื่น มีหมื่นต้องการแสน มีแสนต้องการล้าน มีล้านต้องการสูงยิ่งขึ้นไป ขาดความพอเพียง สำหรับผู้ภาวนา เอาแค่พอเพียง ดำรงชีวิตอยู่โดยไม่ลำบาก และก็ไม่สบายเกินไป แต่อนุเคราะห์กับคนรอบด้านเป็นทานได้

ยามมาเราก็มาตัวเปล่า ยามไปก็ต้องมีสติว่าปราศจากความเป็นเจ้าของใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าสมบัติพัสฐาน คนรัก คนเกลียด ศรัตรูคู่แค้น ก็ล้วนไม่มีค่าอะไรเมื่อชีวิตต้องเดินทางเปลี่ยนภพเปลี่ยนชาติต่อไป การได้สิ้นภพสิ้นชาตไม่ต้องการมาทุกข์ต่อไป จึงเป็นสิ่งที่สามารถจะกระทำตามได้ ตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

ปัจจุบันมรรคยังมีอยู่ ผลก็ยังมีอยู่ ที่ขาดคือคนที่ตาม
ขาดอย่างเดียวคือคนที่มุ่งมั่นตามพระพุทธเจ้ามีน้อยลง
ขอให้ผู้ฝึกฝนภาวนาทุกท่าน อย่าได้ท้อแท้สิ้นหวัง ในการภาวนา แต่จงดำรงชีวิตให้มีความหมายในเส้นทางที่ต้องปล่อยวางเถิด

เจริญธรรม / เจริญพร
3 ธันวาคม 2020