พระเจ้าพิมพิสาร ครั้งเจอพระพุทธเจ้าครั้งแรกก็ชอบใจ

เริ่มโดย kai, ส.ค 25, 2023, 10:23 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

kai

พระเจ้าพิมพิสาร ครั้งเจอพระพุทธเจ้าครั้งแรกก็ชอบใจ
ในความสง่างาม และ กิตติศัพท์ของศากยวงศ์ จึงพูดชักชวน พระพุทธเจ้าว่า

"ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ข้าพเจ้ายินยอม มอบสมบัติของข้าพเจ้ากึ่งหนึ่งให้กับท่าน ถ้าท่าน ละจากการเป็นสมณะ"
พุทธญาณ เป็นสิ่งที่ มนุษย์ปุถุชน เข้าใจได้ยาก ว่า ทำไมพระพุทธเจ้าไม่ทำอย่างนี้ ไปทำอย่างนี้ กล่าวได้ว่า เป็นสิ่งที่เราเข้าใจได้ยากอยู่
ยกตัวอย่าง

พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรด องคุลีมาล เพราะว่า องคุลีมาลจะทำ มาตุฆาต และจะพลาดจากการได้เป็น พระอรหันต์ ซึ่งไปโปรดสำเร็จ
แต่พระพุทธเจ้าไม่เสด็จไปช่วยพระเจ้าพิมพิสาร ที่กำลังถูกลูกชาย คือ พระเจ้าอชาตศรัตรู ทรมาน พระเจ้าพิมพิสาร มีชีวิตได้เกือบเดือน จึงสวรรคต ในแต่ละวัน พระเจ้าพิมพิสาร จะมองออกไปนอกหน้าต่างคุก จะเห็นวัดที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ แต่อย่างไรพระพุทธเจ้าไม่ได้มาช่วย แม้ภายหลัง พระเจ้าอชาตศรัตรูสำนึกผิดแล้ว ช่วยบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นเจ้าภาพทำสังคายนาพระไตรปิฏกครั้งที่ 1
พิจารณา แล้ว องคุลีมาล โชคดี ส่วนพระเจ้าอชาตศัตรู โชคร้าย ที่พระพุทธเจ้าไปโปรด กับ ไม่ได้ไปโปรด
การช่วยองคุลีมาล อาจจะไม่กระทบกระเทือนอะไรมาก นัก เพราะเป็นโจร ส่วนการช่วยพระเจ้าพิมพิสารอาจจะมีอันตรายมากกว่า เพราะว่า พระเทวฑัตรบงการอยู่ด้วย ดังนั้นพระพุทธเจ้าจึงไม่ได้เสด็จไปช่วย พระเจ้าพิมพิสาร

เรื่องของ พุทธญาณ จึงเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก นักสำหรับ ปุถุชน ที่จะไปเข้าใจว่า เพราะอะไร พระพุทธเจ้า จึงทำอย่างนั้น ไม่ทำอย่างนี้
ดังนั้นหลายคนถามเหตุผล กับ ธัมมะวังโส ในเรื่องต่าง ๆ บางเรื่องมันก็ตอบได้ แต่บางเรื่องก็ไม่ได้ตอบ ปัจจุบัน ธัมมะวังโส ไม่เคยแก้ตัวเรื่องอะไร ใครอยากเข้าใจอย่างไรก็ปล่อยให้ไปตามนั้น ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 หลังออกพรรษา มาก็เฉย ๆ กับแทบจะทุกเรื่อง ไม่เร่ง ไม่รีบ กับอะไรทั้งนั้น ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างนั้น ไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรให้วุ่นวาย ใครจะเข้าใจ ไม่เข้าใจก็ช่างมัน ใครอยากเข้าใจก็อธิบายให้เล็กน้อย แต่ให้เขาทำความพยายามในกรรมฐานให้มาก เพราะถ้าทำความพยายาม ( ความเพียร ) อยู่ การที่จะไม่บรรลุ มีโอกาสน้อยมาก แต่ถ้ายังไม่ละทิ้งการภาวนา โอกาสในการบรรลุมันก็จะมีมาเอง เพราะมันเป็น เหตุปัจจะโย ผลสมาบัติเป็นอย่างนั้น

ในโลกนี้ถ้าเรามองเห็นตามความเป็นจริงแล้ว ใครจะเข้าใจเรา หรือไม่เข้าใจเรา มันก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย ใครจะสนใจ หรือ ไม่สนใจ มันก็อยู่ที่การสร้างบารมีมาแต่ละคน แต่ละภพ แต่ละชาติ ตามกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม นั่นเองทุกสรรพสิ่ง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็ดับไป ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีอะไรให้อาลัยอาวรณ์ กายสังขารนี้ อยู่ภายใต้กฏแห่งธรรม คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา
ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ เป็นเพียงสภาวะธรรม ที่เกิดดับ เท่านั้นไม่ควรใส่ใจเลยสักอย่างเดียว ไม่ได้เป็นของจริง เป็นสิ่งที่ตั้งอยู่ได้ไม่นาน

เจริญธรรม / เจริญพร
1 มกราคม 2021

You cannot view this attachment.