ควรมีปัจจัย หรือ ไม่ค่ะ / ครับ ขอ พอจ ชี้แจงหน่อย ว่า ควรมี หรือ ไม่ควรมี

[kai]

ถาม พระ ควรมีปัจจัย หรือ ไม่ค่ะ / ครับ
ขอ พอจ ชี้แจงหน่อย ว่า ควรมี หรือ ไม่ควรมี

ตอบ ตอบเป็นตอนที่ 1 ทั่วไป

ถ้าตามพุทธบัญญํติ ก็ไม่ควรมี ควรจะใช้ชีวิตตามมี ตามได้ ตามเกิด เยี่ยงขอทาน ภิกษุ ชื่อว่า ผู้ขอ แต่ อย่างไร ก็มีชีวิตคล้ายวณิพก ถ้าเอาตามที่พระพุทธเจ้าประสงค์ คือ ใช้ชีวิต อาศัยผู้อื่น เลี้ยง และเอาเวลาที่เขาเลี้ยงนั้นไปมุ่งบำเพ็ญภาวนา
การไม่มีอะไรเลย ก็เหมือนคนจนตรอก ไม่มีบ้าน ไม่มีเงิน ไม่มีแม้กระทั่งเครื่องนุ่งห่ม หยูกยา แต่อย่างไรพระพุทธเจ้าเห็นจุดนี้ จึงให้สามารถรับบริจาคปัจจัย 4 ได้ แต่ก็ให้รับแค่เพียงใช้งาน
เมื่อรับแล้วก็ต้องทำจิตพิจารณา ก่อนใช้ ( ปฏิสังขาโย ) ขณะใช้ ( ยถาปัจจะยัง ) หลังใช้ ( อัชชะ มะยา ) ว่าใช้ปัจจัยทั้งหลายเหล่านั้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการภาวนาเท่านั้น ไม่ให้เสพปัจจัยเหล่านั้น ด้วยความหลงงมงาย ในทางผิด
เรียกง่าย ๆ การใช้ชีวิต ต้องประกอบธุคงค์ ใช้ผ้าสามผืน มีฟ้าเป็นหลังคา มีฟางเป็นที่นอน ไม่ยึดติดกับที่ใด ๆ แต่ต่อมาพระพุทธเจ้า ก็อนุญาตให้มีเสนาสนะที่ควรที่สามารถกันแดดกันฝนเป็นที่บำเพ็ญภาวนาได้ ไม่ได้ให้ยึดอยู่แต่โคนไม้ และต่อมาก็บัญญัติให้ทำอาหารในที่ไม่มีใครถวายอาหาร ตามวัสดุที่มีโดยไม่เบียดเบียนสัตว์ให้เดือดร้อน วินัยบัญญัติต่าง ๆ ก็เริ่มมีมามีทั้งข้อห้าม และ อนุญาต

มาที่คำถาม เรื่องการรับเงิน ทอง พระพุทธเจ้าบัญญัติไว้ในวินัย ส่วน 227 ข้อ มีข้อห้ามว่าห้ามรับ เงิน ทอง มีเหตุผลอยู่ในพระวินัยบัญญัติ แต่ ขณะเดียวกัน ก็มีอนาปัตตวาร ( อนาบัติ การไม่ปรับอาบัติ หรือ ข้ออนุญาต ) ให้สามารถรับได้ ตามความจำเป็น

เงินทอง เป็นหมือนงูพิษที่ฆ่าคนพก
เงินทอง เป็นเหมือนยาพิษที่คนใช้ไม่เป็นก็ย่ำแย่
เงินทอง เป็นเหมือนสุขอันคนควรได้ก้เพราะว่าใช้ถูกทาง
เงินทอง สร้างวัด สร้างบุญ เสบียงบุญ ก็เพราะว่าผู้ใช้ใช้เป็น

เจริญธรรม / เจริญพร
23 มีนาคม 2565