ยุคเสื่อมของการฝึกฝน ฉันทะสมาธิ หรือการทำมรรคสมังคี

[kai]

ยุคเสื่อมของการฝึกฝน ฉันทะสมาธิ หรือการทำมรรคสมังคี
เป็นเพราะว่าคนไม่เข้าใจเรื่องกระบวนการทำสัมมาสมาธิ และ
คิดว่า ชีวิตจะบรรลุได้เพียงแค่การประคองสติ
เข้าใจว่า สติปัฏฐาน ไม่ต้องการสมาธิ

และเข้าใจไปตามการสอน ของสติปัฏฐานของยุคง่ายที่ สอนว่า ขณิกะสมาธิ สามารถทำให้เข้าถึงการบรรลุ และเข้าใจการเข้าใจสภาวะธรรม และรู้ดักอารมณ์ เหล่านั้นคือการบรรลุไปตามกานสอนของ พระที่ไม่บรรลุธรรมจริง ๆ

ความเข้าใจผิดอย่างนี้มีเป็นวงกว้าง คนที่เข้าใจตนเองบรรลุ แต่ไม่สามารถเข้าผลสมาบัติได้ ต้องบอกเลยว่า โง่มาก เพราะเข้าใจว่าบรรลุ แต่ ไม่บรรลุนั่นเอง

ส่วนตัวได้เจอนักภาวนาเยี่ยงนี้มาก ในขณะที่ไปอบรมและก็เจอมากในสายอภิธรรม ที่ไม่เคยเข้าสมาธิระดับอุปจาระขึ้นไปเลย เพียงแต่คิดว่าใช้ปัญญาพิจารณาเห็นตามจริง แต่ความเป็นจริงก็ไม่ได้บรรลุอะไร มีแต่ EGO คือความผยองคิดว่าบรรลุ บางคนก็เลิกไหว้พระ เคารพพระ เพราะคิดว่าตนเองบรรลุแล้ว ก็มีจำนวนมากแต่อย่างไร ก็ทางใครทางมัน

สำหรับคนที่คิดว่าตนเองบรรลุแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การอธิษฐานเข้า ผลสมาบัติ ก็จะรู้ตนเองได้ว่า บรรลุแล้ว หรือยังไม่บรรลุ ถ้าเข้าได้ก็บรรลุ ถ้าเข้าไม่ได้ก็คือไม่บรรลุ

คุณสมบัติของ ผลสมาบัติ คืออะไร
ผลสมาบัติ มีได้ตั้งแต่ โสดาบัน ไม่ใช่มีแค่ พระอรหันต์ โสดาบันก็มี ผลสมาบัติ ทุกระดับมีระยะเวลาของสมาธิ ( ฉันทะสมาธิ หรือ มรรคสมังคี ) ทุกระดับมีเวลาเท่ากัน หมายความผู้เข้าสมาธิ ด้วยผลสมาบัติ หรือ กระทำผลสมาบัติ สามารถยับยั้ง กายสังขาร โดยรวมได้ตั้งแต่ ขั้นต่ำ 12 ชม ( ต่ำกว่านี้คือไม่ใช่ ) สูงสุดคือ 24 - 36 ชม

ดังนั้นการเข้าผลสมาบัติ ท่านกล่าวว่า
ผู้ที่บรรลุคุณธรรมย่อมเข้าผลสมาบัติ
อย่างน้อย ปีละครั้ง หรือ กระทำผลสมาบัติอย่างน้อย สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ตามความชำนาญ ของการบรรลุแต่ละระดับ

โสดาบัน เข้า ผลสมาบัติ ย่อมได้ ระยะเวลา 12 ชม ถึง 36 ชม
สกทาคามี เข้า ผลสมาบัติ ย่อมได้ ระยะเวลา 12 ชม ถึง 36 ชม
อนาคามี เข้า ผลสมาบัติ ย่อมได้ ระยะเวลา 12 ชม ถึง 36 ชม
อรหันต์ เข้า ผลสมาบัติ ย่อมได้ ระยะเวลา 12 ชม ถึง 36 ชม

เว้นแต่ อนาคามี อธิษฐาน เข้าผลาสมาบัติ และอธิษฐานเป็น นิโรธสมาบัติ เข้าระยะเวลานานกว่า 1 - 5 วัน
เว้่นแต่ อรหันต์ อธิษฐษน เข้าผลสมาบัติ และนิโรธสมาบัติ ดับเวทนา และสัญญา เป็นสัญญาเวทยิตนิโรธ ใช้เวลา 1 - 22 วัน 

ดังนั้นเตือนท่านทั้งหลายที่เข้าใจว่าตนเองบรรลุ โปรดตรวจสอบ ผลสมาบัติของตนเองเสียจะดีกว่า มัวแต่มองคนอื่น มันจะโง่ และ เสียมรรค เสียผล ได้ ถ้ายังเข้าใจผิด ไปตามคำสอนของ โมฆะบุรุษ ( ที่มีจำนวนมาก ในปัจจุบัน )

เจริญธรรม / เจริญพร