สายอาคม คือ สายอะไร

[kai]

ถาม สายอาคม คือ สายอะไร ครับ

ตอบ สายอาคม นั้นในทาง กัจจายนะ นั้น
ไม่มีสายนี้ แต่ในการสืบทอดกันมานั้น
สายอาคม เป็นสายที่เกิดจากประสบการณ์ การใช้งาน
ทางด้านจิตสมาธิ ทางอิทธิวิธิญาณ

ดังนั้นการใช้งานอิทธิวิธิญาณ
ก็เหมือนเป็นการแจกประสบการณ์

ในสมัยครั้งพุทธกาลมีผู้สำเร็จญาณเป็น พระอริยะ
ก็มากมายแต่ ญาณที่ได้ มานั้น บางครั้ง
ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร เลยที่ได้
เพราะผู้ใช้ ถึงได้มาก็ใช้ไม่เป็น เช่นได้
ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ( ระลึกชาติ ) มา
ก็เพียงแค่ตามระลึกเข้าไปดูอดีต
แต่การตามระลึกเข้าไปดูนั้น
ก็เหมือนเราไปในคลังเอกสาร หรือ ห้องสมุดไม่ต่างกัน

ดังนั้นถึงจะมีสามารถเข้าไปถึงคลังนี้ได้
แต่ไม่รู้จะไปดูเรือ่งอะไร ก็คือระลึกไปมั่ว
ตามพื้นฐานนิสัย นานเข้า ๆ ก็เบื่อการดูไปเอง
เพราะดูไปดูมา มันก็คือ แบบเก่า ตายแล้วเกิด
เป็นนั้น เป็นนี้ ซึ่งการได้ญาณอย่างนี้
ไม่เกิดประโยชน์

ดังนั้นการใช้งาน ญาณทั้ง 9
จึงต้องมีการสอนวิธีการใช้ จากผู้มีประสบการณ์โดยตรง
และก็บันทึกการเข้าไปใช้งาน สอนกันสืบมา
ทั้งหมดนี้รวมเรียกว่า สายอาคม

สายอาคม ในทางกัจจายนะ มีวิธีการใช้มากมาย
ไปตามวัฒนธรรม ของแต่ละที่ แต่ละประเทศ
สำหรับสายประเทศไทย จะนิยมถ่ายทอดกันไว้
ในรูปแบบเดียว คือ การใช้ มนต์ กับ อักขระ

ดังนั้น สายอาคม จึงจำเป็นต้องเรียน
หรือ ต้องเลือก ว่าจะไป เอาอะไร
มนต์ หรือ อักขระ ( ยันต์ )

สรุปก็คือ สายอาคม ในสายกรรมฐาน
แบ่งออกเป็น 2 พวก คือ

1. สายอาคม มนต์
ก็คือการท่องบ่น มนต์ นำอิทธิวิธิญาณ มาใช้งาน

2. สายอักขระ ( ยันต์ )
ก็คือการเขียนอักขระ มนต์ นำอิทธิญาณ มาใช้งาน

ทั้งสองประการนี้ ไม่ใช่เรื่องนิพพาน
แต่ เป็นเรื่องที่บุคคลปุถุชน และพระอริยะ
ก็สามารถทำได้ เพราะใน มนต์ และ อักขระ นั้น
มีประโยชน์ ในการภาวนา

เช่น สมัยครั้งพุทธกาล พระภิกษุไปอยู่ในป่า
ถูกเทวดาปลอมเป็นผี มารบกวน
พระพุทธเจ้า ก็สอนมนต์ ให้ไปสวดท่องในป่า
ถ้าหาก เทวดา หรือ ผี มารบกวน ก็ให้ท่องมนต์

( ดังนั้นในมนต์ นั้นไม่ได้ต้องการความเข้าใจอะไร
แต่ต้องการศรัทธา ในการสวด
และพลังจิตที่ส่งความปรารถนาไปในการสวด
แต่มนต์ จะมีพลังมากก็อยู่ที่พลังจิตของผู้สวด ด้วย )

ในครั้งพุทธกาล เกิดโรคระบาด อหิวาตกโรค
พระพุทธเจ้าได้ให้พระสงฆ์ ทำการสวดสาธายาย 12 ตำนาน
และ ให้พระอานนท์ นำน้ำพุทธมนต์นั้นไป รักษาคนป่วย
ประพรมคนป่วย ด้วยอำนาจพุทธคุณ (ไม่ใช่ยา )
คนป่วยก็หายป่วย คนเจ็บก็หายเจ็บ เป็นต้น

แม้พระพุทธเจ้า พระองค์ประชวร
พระอัครสาวกก็ป่วย พระอรหันต์หลายรูปป่วยจะตายแล้ว
พระพุทธเจ้าก็ให้สวดสาธยาย มนต์เคล็ดกรรมฐาน
เรียกว่า โพชฌงค์ ขึ้นมา ก็หายป่วยกัน
และอีกหลายเรื่อง ถ้าเล่าก็เยอะแยะในเรือ่ง ของมนต์

ส่วนเรื่องของอักขระนั้น
ส่วนใหญ่จะใช้สัญญลักษณ์กันมากกว่า ในครั้งพุทธกาล

ดังนั้นเรือ่งอักขระเป็นเรื่องของหมู่บัณฑิต
เพราะบัณฑิต จึงจะเขียนอักขระได้
ดังนั้นในสายสุวรรณภูมิ จึงได้รับถ่ายทอดกันมา
สืบกันมา เรียกว่าการใช้ ธาตุอักขระ

ที่นิยม ก็คือ ธาตุอักขระ ของพระพุทธเจ้า
นะ มะ พะ ทะ และถูกนำมาใช้ในทางวิชากรรมฐาน
ด้วยการเขียนรูปลักษณ์
เฉพาะกิจด้วยการเจริญจิตเป็นกลาง ฐาน ที่ 3 คือ
พระโอกกันติกา จึงเกิดรูปอักขระ
สายนี้มากที่สุด เรียกว่า การเขียน นะ 108 วิธี

ส่วนการเขียน มะ พะ ทะ นั้น ไม่ค่อยนิยม
เพราะว่า ในยุคนี้เป็นยุคของพระพุทธเจ้า
ที่เป็น ธาตุ นะ ( น้ำ )

ดังนั้นสายอาคม ก็มีวิชา ที่จะต้องเรียนเช่นกัน

ถ้าจะเรียนวิชานี้ ต้องทำอย่างไร ?
ตอบ ต้องเดินจิตกรรมฐาน เป็น อุปจาระฌาน ขั้นต่ำให้ได้
ซึ่งส่วนใหญ่ ก็จะได้เรียน ห้อง พระธรรมปีติ พระยุคลธรรม
พระสุขสมาธิ 3 ห้องนี้จบก็มีคุณสมบัติ เรียนสายอาคมได้

ปัจจุบัน คนฉลาด เพราะคำสอนลักษณะปัญญามากไป
จึงมีจิตศรัทธาในการใช้มนต์ และ อักขระน้อยลง
แล้วไปมองว่าเป็นไสยศาสตร์ ทั้งๆที่จริงมันเป็นการใช้พลังจิต
เพื่อกิจกรรมบางอย่าง โดยเฉพาะ
ปัจจุบันเน้นออกไปทาง เมตตาคุณ เป็นหลัก
ดังนั้น ผู้ใช้ อาคม จึงมีการใช้ไม่กี่รูปแบบ
มี เมตตา แคล้วคลาด คงกระพัน ล่องหน แปลงกาย
ป้องกันภัย เดินทาง 7 ประการนี้

เล่าพอให้มองเห็นภาพ สายอาคม
ว่าจะต้องเรียนอะไรแล้วต้องการแบบไหน
จะเป็น มนต์ หรือ อักขระ ก็ต้องเลือก
หนึ่งอย่าง สองอย่างได้ไหม
ในสายนี้ไม่นิยมสองอย่าง เลือกเพียงอย่างเดียว
นอกจากเป็นครูสายกรรมฐาน จึงต้องเรียนสองอย่าง

เจริญธรรม / เจริญพร
17 ตุลาคม 2564