แม่บท สุข ทั้งหมดในพุทธศาสนา รวมลงมีเท่านี้

เริ่มโดย kai, ต.ค 17, 2024, 09:59 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

kai

แม่บท สุข ทั้งหมดในพุทธศาสนา รวมลงมีเท่านี้
===============================

[๓๐๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้ ๒ อย่างเป็นไฉน คือ สุข
ของคฤหัสถ์ ๑ สุขเกิดแต่บรรพชา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาสุข ๒ อย่างนี้ สุขเกิดแต่บรรพชาเป็นเลิศ ฯ
[๓๑๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้ ๒ อย่างเป็นไฉน คือ
กามสุข ๑ เนกขัมมสุข ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้แล ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย บรรดาสุข ๒ อย่างนี้ เนกขัมมสุขเป็นเลิศ ฯ
[๓๑๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้ ๒ อย่างเป็นไฉน คือ สุข
เจือกิเลส ๑ สุขไม่เจือกิเลส ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้แล ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย บรรดาสุข ๒ อย่างนี้ สุขไม่เจือกิเลสเป็นเลิศ ฯ
[๓๑๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้ ๒ อย่างเป็นไฉน คือ สุข
มีอาสวะ ๑ สุขไม่มีอาสวะ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้แล ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย บรรดาสุข ๒ อย่างนี้ สุขไม่มีอาสวะเป็นเลิศ ฯ
[๓๑๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้ ๒ อย่างเป็นไฉน คือ สุข
อิงอามิส ๑ สุขไม่อิงอามิส ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้แล ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย บรรดาสุข ๒ อย่างนี้ สุขไม่อิงอามิสเป็นเลิศ ฯ
[๓๑๔] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้ ๒ อย่างเป็นไฉน คือ สุข
ของพระอริยเจ้า ๑ สุขของปุถุชน ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้แล
ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาสุข ๒ อย่างนี้ สุขของพระอริยเจ้าเป็นเลิศ ฯ
 [๓๑๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้ ๒ อย่างเป็นไฉน คือ
กายิกสุข ๑ เจตสิกสุข ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้แล ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย บรรดาสุข ๒ อย่างนี้ เจตสิกสุขเป็นเลิศ ฯ
 [๓๑๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้ ๒ อย่างเป็นไฉน คือ สุข
อันเกิดแต่ฌานที่ยังมีปีติ ๑ สุขอันเกิดแต่ฌานที่ไม่มีปีติ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาสุข ๒ อย่างนี้ สุขอันเกิดแต่ฌาน
ไม่มีปีติเป็นเลิศ ฯ
 [๓๑๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้ ๒ อย่างเป็นไฉน คือ สุข
เกิดแต่ความยินดี ๑ สุขเกิดแต่ความวางเฉย ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒
อย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาสุข ๒ อย่างนี้ สุขเกิดจากการวางเฉย
เป็นเลิศ ฯ
 [๓๑๘] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้ ๒ อย่างเป็นไฉน คือ สุข
ที่ถึงสมาธิ ๑ สุขที่ไม่ถึงสมาธิ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้แล ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย บรรดาสุข ๒ อย่างนี้ สุขที่ถึงสมาธิเป็นเลิศ ฯ
 [๓๑๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้ ๒ อย่างเป็นไฉน คือ สุข
เกิดแต่ฌานมีปีติเป็นอารมณ์ ๑ สุขเกิดแต่ฌานไม่มีปีติเป็นอารมณ์ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาสุข ๒ อย่างนี้ สุขเกิดแต่ฌานไม่มีปีติเป็นอารมณ์เป็นเลิศ ฯ
 [๓๒๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้ ๒ อย่างเป็นไฉน คือ สุข
ที่มีความยินดีเป็นอารมณ์ ๑ สุขที่มีความวางเฉยเป็นอารมณ์ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลายสุข ๒ อย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาสุข ๒ อย่างนี้ สุขที่มีความวางเฉยเป็นอารมณ์เป็นเลิศ ฯ
 [๓๒๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒ อย่างนี้ ๒ อย่างเป็นไฉน คือ สุข
ที่มีรูปเป็นอารมณ์ ๑ สุขที่ไม่มีรูปเป็นอารมณ์ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สุข ๒
อย่างนี้แล ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรดาสุข ๒ อย่างนี้ สุขที่ไม่มีรูปเป็นอารมณ์
เป็นเลิศ ฯ
-----------------------------------------------------------------------
[๓๐๙]   ๖๓  เทฺวมานิ  ภิกฺขเว  สุขานิ  กตมานิ  เทฺว  คิหิสุขญฺจ
ปพฺพชฺชาสุขญฺจ  ๑-  อิมานิ  โข  ภิกฺขเว  เทฺว  สุขานิ เอตทคฺคํ ภิกฺขเว
อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ ปพฺพชฺชาสุขนฺติ ๒- ฯ
     [๓๑๐]   ๖๔  เทฺวมานิ  ภิกฺขเว  สุขานิ  กตมานิ  เทฺว กามสุขญฺจ
เนกฺขมฺมสุขญฺจ   อิมานิ   โข  ภิกฺขเว  เทฺว  สุขานิ  เอตทคฺคํ  ภิกฺขเว
@เชิงอรรถ: ๑-๒ ม. ปพฺพชิตสุขญฺจ ฯ
อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ เนกฺขมฺมสุขนฺติ ฯ
     [๓๑๑]   ๖๕  เทฺวมานิ  ภิกฺขเว  สุขานิ  กตมานิ  เทฺว อุปธิสุขญฺจ
นิรุปธิสุขญฺจ   อิมานิ   โข   ภิกฺขเว   เทฺว  สุขานิ  เอตทคฺคํ  ภิกฺขเว
อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ นิรุปธิสุขนฺติ ฯ
     [๓๑๒]   ๖๖  เทฺวมานิ  ภิกฺขเว  สุขานิ  กตมานิ  เทฺว  สาสวญฺจ
สุขํ   อนาสวญฺจ   สุขํ   อิมานิ   โข  ภิกฺขเว  เทฺว  สุขานิ  เอตทคฺคํ
ภิกฺขเว อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ อนาสวสุขนฺติ ๑- ฯ
     [๓๑๓]   ๖๗  เทฺวมานิ  ภิกฺขเว  สุขานิ  กตมานิ  เทฺว  สามิสญฺจ
สุขํ   นิรามิสญฺจ   สุขํ   อิมานิ   โข  ภิกฺขเว  เทฺว  สุขานิ  เอตทคฺคํ
ภิกฺขเว อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ นิรามิสํ สุขนฺติ ฯ
     [๓๑๔]   ๖๘  เทฺวมานิ  ภิกฺขเว  สุขานิ  กตมานิ  เทฺว อริยสุขญฺจ
อนริยสุขญฺจ   อิมานิ   โข   ภิกฺขเว   เทฺว  สุขานิ  เอตทคฺคํ  ภิกฺขเว
อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ อริยสุขนฺติ ฯ
     [๓๑๕]   ๖๙  เทฺวมานิ  ภิกฺขเว  สุขานิ  กตมานิ  เทฺว  กายิกญฺจ
สุขํ   เจตสิกญฺจ   สุขํ   อิมานิ   โข  ภิกฺขเว  เทฺว  สุขานิ  เอตทคฺคํ
ภิกฺขเว อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ เจตสิกํ สุขนฺติ ฯ
     [๓๑๖]   ๗๐   เทฺวมานิ  ภิกฺขเว  สุขานิ  กตมานิ เทฺว สปฺปีติกญฺจ
สุขํ   นิปฺปีติกญฺจ   สุขํ   อิมานิ   โข  ภิกฺขเว  เทฺว  สุขานิ  เอตทคฺคํ
ภิกฺขเว อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ นิปฺปีติกํ สุขนฺติ ฯ
     [๓๑๗]   ๗๑  เทฺวมานิ  ภิกฺขเว  สุขานิ  กตมานิ  เทฺว สาตสุขญฺจ
@เชิงอรรถ: ๑ อนาสวํ สุขนฺติ ปเทน ภวิตพฺพํ ฯ
อุเปกฺขาสุขญฺจ   อิมานิ   โข  ภิกฺขเว  เทฺว  สุขานิ  เอตทคฺคํ  ภิกฺขเว
อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ อุเปกฺขาสุขนฺติ  ฯ
     [๓๑๘]   ๗๒  เทฺวมานิ   ภิกฺขเว  สุขานิ กตมานิ เทฺว สมาธิสุขญฺจ
อสมาธิสุขญฺจ   อิมานิ   โข   ภิกฺขเว  เทฺว  สุขานิ  เอตทคฺคํ  ภิกฺขเว
อิเมสํ ทฺวินฺนํ สุขานํ ยทิทํ สมาธิสุขนฺติ ฯ
     [๓๑๙]   ๗๓    เทฺวมานิ   ภิกฺขเว   สุขานิ   กตมานิ   เทฺว
สปฺปีติการมฺมณญฺจ     สุขํ    นิปฺปีติการมฺมณญฺจ    สุขํ    อิมานิ    โข
ภิกฺขเว   เทฺว  สุขานิ  เอตทคฺคํ  ภิกฺขเว  อิเมสํ  ทฺวินฺนํ  สุขานํ  ยทิทํ
นิปฺปีติการมฺมณํ สุขนฺติ ฯ
     [๓๒๐]   ๗๔    เทฺวมานิ   ภิกฺขเว   สุขานิ   กตมานิ   เทฺว
สาตารมฺมณญฺจ   สุขํ   อุเปกฺขารมฺมณญฺจ   สุขํ   อิมานิ   โข   ภิกฺขเว
เทฺว    สุขานิ   เอตทคฺคํ   ภิกฺขเว   อิเมสํ   ทฺวินฺนํ   สุขานํ   ยทิทํ
อุเปกฺขารมฺมณํ สุขนฺติ ฯ
     [๓๒๑]   ๗๕    เทฺวมานิ   ภิกฺขเว   สุขานิ   กตมานิ   เทฺว
รูปารมฺมณญฺจ   สุขํ   อรูปารมฺมณญฺจ   สุขํ   อิมานิ  โข  ภิกฺขเว  เทฺว
สุขานิ     เอตทคฺคํ    ภิกฺขเว    อิเมสํ    ทฺวินฺนํ    สุขานํ    ยทิทํ
อรูปารมฺมณํ สุขนฺติ ฯ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บทสรุป จะมาแจกแจงเพิ่มเติม
เนื่องด้วยข้อความแม่บทนี้ยาว
ไม่สามารถตัดตอนใดออกใด
จำเป็นต้องอธิบายทั้งหมด


เจริญธรรม
25 เมษายน 2565