การสวดคาถาพญาไก่แก้ว เพื่อลดวิบาก อย่างได้ผล

[kai]

การสวดคาถาพญาไก่แก้ว เพื่อลดวิบาก อย่างได้ผล

สอนไปหลายครั้งแล้ว แต่ ไม่ยอมทำความเข้าใจกัน เลย ผู้สวดเพื่อลดวิบาก ต้องทำความเข้าใจด้วย
1. คุณเป็นทุกข์ เพราะวิบากที่เกิด คุณต้องการให้วิบากบรรเทา อันนี้ข้อแรก ที่คุณต้องการ ดังนั้น เมือจะสวดให้ทำการอธิษฐาน ตั้งสัจจะสวด มี 2 แบบ คือ 27 จบ ( 3 คาบ ) 108 จบ ( 9 คาบ ) เมื่อสวดครบแล้ว อย่าได้สวดต่อ ให้หยุดสวดแล้ว อธิษฐานซ้ำทันที
ขณะที่สวดให้ เป็นการสวดท่อง จะในใจหรือออกเสียง ตามสบาย แต่ห้ามกำหนดฐานจิต ใด ๆ ทั้งนั้น เพราะถ้ากำหนดการสวดจะเป็นการทำสมาธิ ทันที เมื่อเข้าไปสู่สมาธิ การสวดเป็น โมฆะ เพราะทำไปเพื่อการภาวนา นิพพาน ตามวัตถุประสงค์ ของสมาธิ
ดังนั้น คุณต้องการโภคะ ก็อย่าได้สวดแบบสมาธิ
การอธิษฐาน ให้อธิษฐานเรื่องใหญ่ เรื่องเดียว เช่น คนติดหนี้ ไม่ใช้หนี้ ก็สวดจนกว่า เขาจะใช้หนี้ อย่าเปลี่ยนเรือ่ง ดังนั้นต้องคิดให้ดีว่า จะให้เกิดอานุภาพ ทางโภคะแบบไหน ?

2. ในขณะที่เป็นทุกข์ ต้องเจริญ สติ มาก ๆขึ้นการเจริญ สติ ก็คือ การอ่านข้อความธรรม คิดอย่างมีเหตุ มีผล เว้นการกระทำสมาธิ ขณะที่ทุกข์ ขณะนั้นไม่สามารถบรรลุธรรมได้ ถึงแม้ทุกข์ จะเป็นต้นทางของวิปัสสนา แต่ ขณะที่ทุกข์ัยังมีอยู่ ยังไม่ปล่อยวาง ไม่คลี่คลาย จิตของผู้เป็นทุกข์ ไม่สามารถเข้า สังเวชธรรมได้ ในขณะนั้น ดังนั้น ใครยิ่งทุกข์ ภาวนาสมาธิ มากขึ้น ทุกข์ ก็จะมากขึ้นเป็นไปตามอำนาจธรรม
ดังนั้น คำว่า พร้อมหรือยัง ที่จะยอมรับทุกข์ ถ้าพร้อมก็ไม่ต้องสนเรือ่งวิบาก อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด อะไรจะดับก็ให้มันดับไปตามนั้น
เจริญธรรม / เจริญพร
5 เมษายน 2022  ·

ทุกวันนี้ ที่ท่านทั้งหลาย ทำบุญ สวดบ้าง แล้วผลวิบากมันไม่ลด เพราะพวกท่านทั้งหลาย ไปทำลงไปเป็น ปรมัตถ์ หมดเลย ยิ่งอธิษฐาน เพื่อพระนิพพาน มากเท่าใด โภคะย่อมไม่เกิด เพราะนิพพาน ไม่มีโภคะสมบัติ
การทำบุญเพื่อนิพพาน นั้นเป็นคุณสมบัติ ของ พระสกทาคามี ซึ่งปัจจุบัน พระที่พระสกทาคามี มักจะสอนไว้ให้ทำบุญ เพื่อความอิ่มใจ พอใจ ในกุศล เพื่อพระนิพพาน เป็นส่วนมากในปัจจุบัน และก็พยายามสอนให้เรา เวลาทำบุญ ก็อย่าไปอธิษฐานอะไรที่เป็น โภคะ คำสอนพวกนี้เป็น ของ พระสกทาคามี ( อุชุปฏิปันโน ผู้มุ่งตรงพระนิพพาน )
ดังนั้น พวกท่าน ทั้งหลาย ยังเป็น ปุถุชน อยู่ก็ให้ทำบุญให้เป็นด้วย ค้าขาย ขายไม่ได้ ก็เจ๊ง เจ๊งแล้วก็ไม่มีกิน ลำบาก ลำบน เป้นต้น เพราะว่า เวลาทำบุญมักทำเพียงแค่ความอิ่มใจ พอใจ เลียนแบบพระสกทาคามี ซึ่งตนเองยังไม่ได้เป็น ครั้นพอถึงภาวะ ย่ำแย่ จึงมีความทุกข์ เพราะวิบากทางโภคะไม่เกิด นั่นเอง
บางคนกำลังย่ำแย่ จะตกงาน ยิ่งทำสมาธิ ภาวนานิพพาน มันก็แย่เพิ่มขึ้นเพราะเป็นการเร่ง บารมี ออกจากเรือน ดังนั้น โภคะก็ไม่เกิด ไปสนับสนุน นิพพาน หมด ก็ยิ่งแย่กว่าเดิม เพราะ มันโง่ ไม่ฟังครูอาจารย์ สอน อวดดี
ต้องดูสถานะ ตนเองด้วย ว่าพร้อมหรือยังที่จะออกจากโลก แค่ทุกข์เพราะโลก ก็ร้องห่ม ร้องไห้ ตีอกชกตัว โทษเวร โทษกรรม กันไปแล้ว อย่างนี้จะไปนิพพาน ได้อย่างไร เพราะนิพพาน ต้องละ แม้แต่ตนเอง ก็ต้องละ คนไปนิพพาน เท่ากับไม่มีอะไรเป็นของตน แม้กายตนก็ไม่ใช่ของตน ยึดมั่น ถือมั่นไม่ได้
อย่าโง่กันมากนัก ให้ฉลาด ฟังครูอาจารย์กันบ้าง

ถาม อธิษฐาน 2 อย่างได้ไหม ?
ตอบ อธิษฐานได้ แต่ผลไม่ได้ เพราะว่า นิพพาน เป็นบุญสูงสุด ถ้าเราอธิษฐาน เพื่อพระนิพพาน สิ่งที่อธิษฐานไว้กอ่นจะหายไปหมด เขาจดแค่คำนิพพาน เท่านั้น เคยบอกไปหลายครั้งแล้ว

ถาม ถ้าตกงานอยู่ แล้ว คาถาจะช่วยได้ไหม ?
ตอบ ข่วยได้แต่ ไม่ใช่สวดอย่างเดียว ไปหาสมัครงานด้วย ไม่ใช่สวดอย่างเดียว แล้วเขาจะมาจ้างเราที่บ้าน มันต้องทำให้สมกับเหตุปัจจัย ร่วมกันด้วย ทรัพย์มีน้อย อยากให้ทรัพย์เพิ่ม สวดด้วย ทำงานด้วย ประหยัดด้วย ขายของไม่ออก สวดด้วย โฆษณาด้วย นี่เรีียกว่า ทำให้ สมเหตุสมผล ไม่ใช้ รอฟ้าดิน ช่วยทุกอย่าง มันต้อง 50 -50 นี่เรียกว่า การกระทำสมเหตุสมผล
ที่สำคัญ คาถานี้ ต้องมี สัจจะ แม้การสวด เมื่อสวดครบก็ต้องเลิกทันที สวดไม่ครบก็ต้องทำให้ครบ ไม่ใช่สวดครบ แล้วสวดแถมอ้อยอิ่ง หรือสวดไม่ครบแล้วเลิกสวด ถ้ากำลังใจมีน้อย ก็เอา 3 คาบ 27 จบ ถ้ากำลังใจมีมาก ก็เอา 9 คาบ 108 จบ
ไม่ต้องแถม และ อย่าให้ขาด นี่เรียกว่า สติ ในการสวด
ผู้เจริญสติ ย่อมถึงคุณธรรมได้
5 เมษายน 2022  ·