พื้นฐานของมนุษย์ต้องการสุข ไม่ใช่ต้องการทุกข์

เริ่มโดย kai, ก.ย 05, 2024, 09:14 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

kai

พื้นฐานของมนุษย์ต้องการสุข ไม่ใช่ต้องการทุกข์

ดังนั้น เมื่อมีทุกข์ จึงไม่ต้องสอนว่า ให้หนีจากทุกข์
คนที่ถูกไฟเผา ย่อมพยายามหลบไฟฉันใด
คนที่มีความทุกข์ ย่อมออกจากทุกข์ ฉันนั้น

ร้านโภชนา ที่ทำอาหารไม่มีรสชาด ไม่มีลูกค้ามากฉันใด
บุคคลผู้เสพ ในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส อันเลิศ
ย่อมถูกตัณหาครอบงำ ด้วยโสมนัส นั้นว่า
นั้น รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส เป็นเรา
เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา
เขาย่อมไม่สามารถละ จากตัณหานั้นได้
เมื่อ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส
ไม่ต้องตามอารมณ์ ของเขา
บุคคลนั้นย่อมถึงความโทมนัส ว่า
รูป เสียง กลิ่น รส ผัสสะ นั้น
เป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา

ผู้วางจิตเป็นอุเบกขา ใน รูป เสียง กลิ่น รส ผัสสะ นั้น ๆ
ได้ ชื่อว่า เป็นผู้มีปัญญา ฉันนั้น
เรียนการละตัณหา ผิด ก็ละตัณหา ไม่ได้
..............
ความเข้าใจผิด ในการพิจารณา สังขาร
เพื่อคลายความกำหนัด ของพระที่ไม่รู้จัก วิปัสสนา จริง ๆ 
ที่มุ่งไปกระทำแต่เรื่องในอดีต และ อนาคต
จนไม่สามารถ สกัด ความลุ่มหลงในกามคุณ ที่เกิดขึ้นได้
เพราะคิดว่า การกำหนดกายคตาสติ และ อสุภะกรรมฐาน นั้น
เป็นอารมณ์ อดีต และ อนาคต


เช่น
ครูรูปแรก สอนว่า ให้ไปทำกรรมฐาน กายคตาสติ
พระหลงรักผู้หญิง ครูก็สอนว่า ให้พิจารณาความจริงว่า
รูป ไม่สวย ประกอบด้วยส่วนประกอบ 32 ประการ
มี ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เป็นต้น

ครูรูปสอง สอนว่า ให้ไปกำหนด อุสภะ 10 ประการ
คือ พิจารณาซากศพ ที่เน่าเหม็น
ส่งกลิ่น เริ่มเขียว เริ่มอืด กระจัดกระจาย
ด้วยเศษเนื้อ เศษหนัง เหลือแต่กระดูก

แล้วลูกศิษย์ ก็ไปปฏิบัติตาม แน่นอน
สิ่งที่อาศัย ก็คือ สภาวะอดีต เพื่อ ดับสภาวะ อนาคต
โดยปัจจุบัน เอา ของไม่สวย ไม่งาม มายับยั้งอารมณ์ไว้
ซึ่งวิธีการดังกล่าว นี้เป็นวิธีการไม่ถูกต้อง
ในการละจากตัณหา ใน สตรี หรือ ผู้หญิง
ที่พระกำหนดผิด เรียนผิดกัน
........................................
ยังมีข้อความเฉพาะ ศิษย์ผู้ปรารถนา เป็นพระอริยะ เท่านั้น
ที่จะทราบข้อความ เพราะข้อความเหล่านี้
ไม่เหมาะกับ ปุถุชน เลย
=========================================
อุปมา ผู้หญิง เป็น ดั่งอาหาร
ที่ปรุงด้วยความปรารถนา บริโภค
ถ้าอาหาร นั้น บูด เน่า จะมีใครกินไหม ?
ถ้าอาหาร ยังไม่ได้ ทำ หรือ เพียงจัดเก็บไว้ ?
จะมีใครได้กินไหม ?
ดังนั้น เวลากินอาหาร ก็ต้องในเวลาปกติ คือ
เวลาที่อาหารนั้น ปรุงเสร็จ แล้ว คนกินก็พร้อมจะกิน
==========================================
คำถาม กลับ คนที่กินรู้ไหม ว่า
ถ้าปล่อยอาหารไปเวลานาน
อาหารนั้น จะเน่าบูด เสีย กินไม่ได้ เป็นพิษ
ดังนั้น อะไรที่จะทำให้ละตัณหา
ในอาหาร ในขณะที่ หิวได้
--------------------------------------------------------------------------
ฉันใด ก็ดี ความกำหนัดในเพศเป็นธรรมชาติ ของสัตว์
เมื่อมีความกำหนัด เกิดขึ้น นั้น
ก็เหมือน ธรรมชาต คือ ความหิวก็เกิดขึ้น ไม่ต่างกัน
ดังนั้น การเสพกาม สืบพันธ์ ของสัตว์จึงเป็นเรือ่งปกติ
======================================
แล้วควรจัดการอย่างไร?
ในกำหนัดที่เกิดขึ้น
ในสภาวะที่ตัณหาครอบงำ
---------------------------------------
ธัมมะวังโส ภิกษุ
14 ตุลาคม 2564