"ให้ทบทวนกรรมฐาน"

เริ่มโดย kai, ส.ค 30, 2024, 08:54 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

kai

คำสอน ของครูทั้งสาม (พระอาจารย์เฒ่า)
เวลาพบท่าน ๆ ก็จะพูดว่า

"ให้ทบทวนกรรมฐาน"


กรรมฐานแนวนี้ในปัจจุบัน ไม่เป็นที่นิยม
เพราะว่ามีรูปแบบขาดความอิสระ
และตามวัดต่าง ๆ วันนี้ไม่มีการส่งเสริม
ในการเรียนการสอน วิชากรรมฐานนี้


กรรมฐาน มัชฌิมาแบบลำดับ หรือ
มูลกรรมฐานกัจจายนะ
นี้จึงขาดช่วงผู้สืบทอด ตั้งแต่ภายหลังสงครามโลก เป็นไปตามโลกาภิวัฒน์ ตามความรู้เทคโนโลยี ที่นำเข้ามาจากประเทศต่าง ๆ คนไทยพุทธส่วนกลาง ไปสนใจ วิชาทางหลักธรรม นำเข้าจาก พม่า เพราะศูนย์กลางการศึกษา มหาวิทยาลัยสงฆ์ ได้นำเข้าหลักวิชาอภิธรรม และ อื่น ๆ เข้ามาไว้ใน รูปแบบ มหาวิทยาลัย โดยเริ่มที่วัดมหาธาตุ


การที่่คนแต่ละคน ไม่ค่อยยากสืบทอดกรรมฐาน เพราะความจุกจิกของวิชากรรมฐาน ต้องอาศํยความจำ คล้ายความจำของพระที่ต้องเรียนบาลี ไม่ต่างกันใดเท่าใดนัก เนื่องด้วยตัววิชา มีหลักต้องจำ สำหรับผู้สืบทอดเรียกว่า แม่บท นั่นเอง
ดังนั้นเพราะต้องจำ แม่บท จึงทำให้ผู้สืบทอด ที่ไม่พร้อมจะจำและบันทึก จึงหันไปสนใจ ในแนวทาง ที่ดูว่าง่าย ๆ
ผู้ที่มั่นคง ส่วนใหญ่ ก็ยังได้แต่สวด ยังอธิบาย ตัววิชากรรมฐานไม่ได้ เมื่อต้องตอบ คณะสายอื่น ๆ แล้ว ก็จะเงียบ เสียมากกว่า ดังนั้น คณาจารย์ทางสายกรรมฐานนี้ จึงเป็นผู้เงียบ และหนักไปทาง พุทธคุณ ในการเสกสวด แทน ในยุคหลัง จึงขาดครูอาจารย์ ผู้สอนสืบทอดวิชา


ในที่สุดวิชา มูลกรรมฐานนี้ก็เริ่มสูญ
และหายไปตามกาลเวลาตามภูมิปัญญา
ของบัณฑิตผู้รู้ทั้งหลายนั่นเอง


ดังนั้นเมื่อยามครู ไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้สอนอะไร
สิ่งที่ผู้ศึกษา ควรจะทำ ก็คือ
การทบทวนวิชากรรมฐาน ให้มากขึ้น
ให้สมกับเป็นผู้ศึกษาวิชากรรมฐาน
มูลกรรมฐาน กัจจายนะ นั่นเอง


เจริญธรรม / เจริญพร
2 ตุลาคม 2564