มโน นวรตนัง

เริ่มโดย kai, ต.ค 17, 2024, 01:16 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

kai

มโน นวรตนัง
( มโน นพรัตน์ )
==========================

แก้ว ๙ ดวง ของอานาปานสติ
๑. จุลสุญญัง  อยู่ปลายจมูก
( แก้วที่หนึ่ง เจริญรอย สัมปชัญญะ )
แก้ว คือลมหายใจที่เข้า ที่ออก ไม่กำหนด ก็เข้า ออกได้
ท่านกล่าวว่า จุล แปลว่า น้อย หรือ ไม่กำหนด สุญญัง ก็ว่างเปล่า
จุลสุญญัง จึงหมายถึง กำหนด หรือ ไม่กำหนด ก็ว่างเปล่า
กำหนด ก็มีสติ
ไม่กำหนด ก็ไม่มีสติ
มีสติ สัมปชัญญะ ก็เกิด
ไม่มีสติ สัมปชัญญะ ก็ไม่ไเกิด

๒. ทิพยสุญญัง
อยู่หว่างคิ้ว หว่างตา
( แก้วที่สอง หมายถึง ความเป็นทิพย์ และ ปัญญา )
แก้ว คือ กาลเวลา อดีต ปัจจุบัน แล อนาคต
กาลเวลา รำลึกได้ มีสัญญา มีเวทนา
ปัจจุบัน รู้ตัวอยู่ มีวิญญาณ มีรูป
อนาคต รู้คิดแล่นไป มีเพียง สังขาร
รูปนาม ปรากฏ เพราะ จิตเป็นทิพย์
จิตเป็นทิพย์ คือ จิตมีปัญญา

๓. มหาสุญญัง อยู่หน้าผาก
( แก้วที่สาม นึกหน่วงสิ่งใด อยู่ภายใต้ กฏ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา )
เมื่อปัญญาเกิด การเห็นตามจริง รวมถึงกองกรรมฐานอื่น ๆ ก็จะเกิดนิมิต
นิมิต เกิดขึ้น( อุปัตตา )  ตั้งอยู่ ( ฐิติยา )  และ ดับไป ( ภังคา )
ความรู้เกิด ความรู้สิ่งที่ปรากฏ ความรู้ในความเสื่อมดับไป เป็น กรรมฐาน
กรรมฐาน เคลื่อนได้ เพราะ มโน มนัส มนินทรีย์ หทัยวัตถุ อากาสธาตุ

๔. อัชชตากาส อยู่กระหม่อมเพดานสูง
( แก้วที่สี่ ปัญญารุ่งโรจน์ เป็นวิสสนา )
ความรู้แจ้งทั้งปวง ในนามกาย ปรากฏเห็น กาย เวทนา จิต ธรรม ดวงธรรม ย่อมปรากฏในที่สุด ปฐมมรรค เริ่มเดิน แกนแห่งธรรมเริ่มหมุน จิตเข้าสู่ อุเบกขา ปล่อยวางภาระทั้งปวง

๕. โคตรภู อยู่ที่ท้ายทอย
( แก้วที่ห้า ตาที่สามย่อมปรากฏ )
ญาณระวังภัย โทษแห่งกามคุณ ย่อมไม่แตะต้อง ผู้มีวิปัสสนาเห็นไปในนามกาย ธรรมกาย พรหมกาย ภูตกาย พุทธกาย ย่อมปรากฏ ปรากฏเป็นภูมิ รู้ ตื่น และ เบิกบาน ในภูมิ ความจางคลายในกามคุณย่อมรุ่งเรือง

๖. กัณฐะลักขโณ อยู่ที่โพรงต้นคอ
( แก้วที่หก นิมิตแห่งอัตตา )
ความเกิดดับ อาศัย อัตตาฉันใด
อนัตตามีได้ เพราะอาศัย อัตตา
สรรพสิ่ง ไม่มีสิ่งใด เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ได้ด้วยตนเอง ทุกสิ่งอาศัย สิ่งหนึ่งเกิด อาศัยสิ่งหนึ่งดับ เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งนี้ดับ สิ่งนี้จึงดับ

๗. หทัยวัตถุ
อยู่ที่กลางทรวงอก
( แก้วที่เจ็ด ใจของมนุษย์ )
การปรากฏ ของอัตตา และ อนัตตา เมื่อปรากฏ ย่อมอาศัยใจเป็นที่ตั้ง เป็นที่รู้ เป็นที่เข้าใจ ท่านกล่าวว่า ยถาภูตญาณทัศศนะ ปรากฏ รู้แจ่มแจ้ง เพราะใจเห็นอัตตา และ อนัตตา
ยถาภูตญาณทัศศนะ มาจากใจ( จิต ) ที่สงบ รู้เห็นใน อัตตา และ อนัตตา ทั้งสองส่วนอย่างพร้อมกัน

๘. ศูนย์นาภี อยู่ ที่สะดือ
( แก้วที่แปด จุดเริ่มต้นคือจุดที่จบ )
ธาตุทั้งสี่ คือ รูป ย่อมเกิด
ธาตุทั้งสี่ คือ รูป ย่อมรู้
ธาตุทั้งสี่ คือ รูป ย่อมเสื่อม
ธาตุทั้งสี่ คือ รูป ย่อมเกิด ย่อมรู้ ย่อมเสื่อม พร้อมกัน
ธาตุทั้งสี่ คือ อัตตา( รูป )
ธาตุทั้งสี่ คือ อนัตตา ( ไมมีรูป หายไป)

๙. อัชชาตากาสเบื้องต่ำ
( แก้วที่เก้า จิตหลุดพ้นจากอัตตา เป็นนิโรธ )
นิโรธ ย่อมปรากฏเพราะพ้นจากสังโยชน์ทั้งปวง
แก้วเคล็ดวิชา นวหรคุณ หรือ เก้านพรัตน์ ในอานาปานสติ เจริญเยี่ยงนี้แล
ผู้มีสติปัญญาพึ่งตามเห็นตามระลึก ในวิชชา ไว้อย่างนี้แล

เจริญธรรม / เจริญพร
13 เมษายน 2565

สวัสดีปีใหม่ไทย