ธรรมะสาระวันนี้ "ในบุคคล 7 จำพวกนี้ท่านภาวนาอยู่ในพวกไหน"
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย ปาฎิกวรรค [๕. สัมปสาทนียสูตร]
เทศนาเรื่องปฏิปทา
เล่มที่ 11 หน้า 111 - 112
เทศนาเรื่องปุคคลบัญญัติ
[๑๕๐] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อีกประการหนึ่ง
เทศนาที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมในเรื่องปุคคลบัญญัติก็นับว่ายอดเยี่ยม บุคคล ๗ จำพวกนี้ (๑) คือ
๑. อุภโตภาควิมุต (๒ ) (ผู้หลุดพ้นทั้ง ๒ ส่วน)
๒. ปัญญาวิมุต( ๓) (ผู้หลุดพ้นด้วยปัญญา)
๓. กายสักขี (๔) (ผู้เป็นพยานในนามกาย)
๔. ทิฏฐิปัตตะ (๕) (ผู้บรรลุสัมมาทิฏฐิ)
๕. สัทธาวิมุต (๖) (ผู้หลุดพ้นด้วยศรัทธา)
๖. ธัมมานุสารี (๗) (ผู้แล่นไปตามธรรม)
๗. สัทธานุสารี (๘) (ผู้แล่นไปตามศรัทธา)
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ นี้คือเทศนาอันยอดเยี่ยมในเรื่องปุคคลบัญญัติ
(๑) ดูเทียบ องฺ.สตฺตก. (แปล) ๒๓/๑๔/๑๓
(๒) อุภโตภาควิมุต
หมายถึงผู้บำเพ็ญสมถกัมมัฏฐานจนได้อรูปสมาบัติ
และใช้สมถะเป็นฐานในการบำเพ็ญ
วิปัสสนาจนได้บรรลุอรหัตตผล (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๑๔/๑๖๐, องฺ.นวก.อ. ๓/๔๕/๓๑๖)
(๓) ปัญญาวิมุต
หมายถึงผู้บำเพ็ญวิปัสสนาล้วน ๆ
จนบรรลุอรหัตตผล (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๑๔/๑๖๑)
(๔) กายสักขี
หมายถึงผู้มีศรัทธาแก่กล้า
ได้สัมผัสวิโมกข์ ๘ ด้วยนามกายและอาสวะบางอย่างก็สิ้นไป
เพราะเห็นด้วยปัญญา และหมายถึงพระอริยบุคคลผู้บรรลุโสดาปัตติผลขึ้นไป จนถึงท่านผู้ปฏิบัติเพื่ออรหัตตผล
(องฺ.ทุก.อ. ๒/๔๙/๕๕, องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๑๔/๑๖๑)
(๕) ทิฏฐิปัตตะ
หมายถึงผู้บรรลุสัมมาทิฏฐิ เข้าใจอริยสัจถูกต้อง
กิเลสบางส่วนสิ้นไป เพราะเห็นด้วยปัญญา
มีปัญญาแก่กล้า และหมายถึงผู้บรรลุโสดาปัตติผลจนถึงผู้ปฏิบัติเพื่ออรหัตตผล (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๑๔/๑๖๑)
(๖) สัทธาวิมุต
หมายถึงผู้หลุดพ้นด้วยศรัทธา
เข้าใจอริยสัจถูกต้อง กิเลสบางส่วนก็สิ้นไป
เพราะเห็นด้วยปัญญา
มีศรัทธาแก่กล้า และหมายถึงผู้บรรลุโสดาปัตติผลจนถึงผู้ปฏิบัติเพื่ออรหัตตผล (องฺ.ทุก.อ. ๒/๔๙/๕๕,
องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๑๔/๑๖๑-๑๖๒)
(๗) ธัมมานุสารี
หมายถึงผู้แล่นไปตามธรรม คือ
ผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุโสดาปัตติผล มีปัญญาแก่กล้า บรรลุผล
แล้วกลายเป็นทิฏฐิปัตตะ (องฺ.ทุก.อ. ๒/๔๙/๕๕, องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๑๔/๑๖๒)
(๘) สัทธานุสารี
หมายถึงผู้แล่นไปตามศรัทธา คือ
ผู้ปฏิบัติเพื่อบรรลุโสดาปัตติผล มีศรัทธาแก่กล้า บรรลุผลแล้วกลายเป็นสัทธาวิมุต (องฺ.ทุก.อ. ๒/๔๙/๕๕, องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๑๔/๑๖๒)